
11 วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นไข้หวัด ทำได้ที่บ้าน ที่คุณควรรู้ | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล
จากที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับร่างกายเราอาจจะอ่อนแอลงในช่วงนั้นพอดี ก็เป็นไปได้ที่เราจะเจ็บป่วยค่ะ โดยสถานการณ์นี้ก็อาจทำให้หลายคนป่วยเป็นไข้หวัดขึ้นมา ซึ่งไข้หวัดน่าจะเป็นสิ่งที่สามารถพบเจอได้บ่อยๆ ที่ตอนนี้หลายคนก็อาจจะกำลังมองหาแนวทางดูแลตัวเองที่บ้าน เพราะอาจมองภาพไม่ออกว่าต้องทำอะไรยังไงบ้าง จริงไหมคะ?
ซึ่งเป็นความโชคดีที่คุณผู้อ่านเปิดมาเจอกับบทความนี้ค่ะ เพราะนี่คือข้อมูลที่เกี่ยวกับวิธีดูแลตัวเองที่บ้านเมื่อเป็นไข้หวัดนะคะ โดยอ่านจบแล้วคุณผู้อ่านจะเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับการดูแลตัวเองให้หายป่วยจากหวัด อีกทั้งยังสามารถนำข้อมูลในนี้ไปดูแลหรือบอกต่อกับคนอื่นๆ ได้อีกด้วย โดยหลายๆ แนวทางสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองค่ะ และถ้าอยากรู้แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง งั้นเรามารู้ไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ กับข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
1. หลีกเลี่ยงสิ่งระคายเคือง
คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การหลีกเลี่ยงสิ่งระคายเคืองเป็นสิ่งสำคัญมากเมื่อเป็นหวัด การสัมผัสกับควันบุหรี่ ฝุ่นละออง หรือแม้แต่น้ำหอมที่มีกลิ่นแรง มีผลทำให้ไอ จาม หรือเจ็บคอมากขึ้นไปอีก การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก และปราศจากสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ จะช่วยให้ร่างกายได้พักฟื้นและอาการหวัดดีขึ้นได้เร็วขึ้นค่ะ
2. พักเสียง
การพักเสียงก็สำคัญไม่แพ้กันเมื่อเราเป็นหวัดค่ะ เพราะการไอหรือเจ็บคอในระหว่างเป็นหวัด ทำให้เส้นเสียงของเราทำงานหนักอยู่แล้ว การพูดคุยมากเกินไป ตะโกน หรือแม้แต่กระซิบ ก็เป็นการรบกวนและทำให้เส้นเสียงบวมมากขึ้นได้ การพักเสียงจึงเป็นการช่วยให้เส้นเสียงได้พักผ่อนและฟื้นตัว ลดอาการเจ็บคอ และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเสียงแหบเรื้อรังตามมาได้ค่ะ
3. พักผ่อนให้เพียงพอ
หลายคนยังไม่รู้ว่า การพักผ่อนอย่างเพียงพอสำคัญสุดๆ ตอนที่เราเป็นหวัด การนอนหลับให้เต็มอิ่มจะช่วยให้เราแข็งแรงขึ้น และยังช่วยให้อาการต่างๆ ที่เราเป็นอยู่มันไม่หนักหนาจนเกินไป อย่างอาการไอ เจ็บคอ หรือน้ำมูกไหลก็จะค่อยๆ ดีขึ้น ทำให้เรารู้สึกสุขสบายตัวและหายป่วยได้ไวขึ้นเยอะเลย เพราะฉะนั้นถ้าเป็นหวัดสิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำได้เลยก็คือ การนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่นั่นเองค่ะ
4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า
ตอนที่เราเป็นหวัด มือของเราอาจจะเผลอไปสัมผัสกับน้ำมูกหรือน้ำลายที่มีเชื้อโรคอยู่ได้ง่ายๆ แล้วถ้าเราเอามือที่ไม่สะอาดนั้นมาจับหน้า ไม่ว่าจะเป็นตา จมูกหรือปาก ก็เท่ากับเป็นการเปิดประตูให้เชื้อหวัดเข้าไปในร่างกายเราได้อีกรอบ ทำให้เราอาจจะป่วยนานขึ้น หรือไม่ก็แพร่เชื้อไปสู่คนอื่นได้ง่ายๆ เลยนะคะ การพยายามไม่จับหน้าตัวเองบ่อยๆ ก็เลยเหมือนเป็นการสร้างเกราะป้องกันอีกชั้นหนึ่ง ไม่ให้เชื้อโรคเข้ามาวุ่นวายในร่างกายเราเพิ่ม และยังช่วยลดโอกาสที่เราจะไปแพร่เชื้อให้คนรอบข้างด้วย เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยป้องกันได้เยอะเลยค่ะ
5. ดื่มน้ำเยอะๆ
การดื่มน้ำเยอะๆ เป็นเรื่องสำคัญมากๆ ค่ะ เพราะร่างกายเราจะสูญเสียน้ำไปกับอาการต่างๆ เช่น มีไข้ หรือน้ำมูกไหล การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายเราไม่ขาดน้ำ ทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น แถมน้ำยังช่วยให้เสมหะที่ข้นเหนียวเหลวลง และขับออกได้ง่ายขึ้น ทำให้เราหายใจสะดวกสบายมากขึ้นด้วย
6. รักษาความสะอาด
การรักษาความสะอาดเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลย เพราะเชื้อหวัดสามารถแพร่กระจายได้ง่ายมากๆ ผ่านการสัมผัสสิ่งของต่างๆ หรือแม้แต่การไอจามของเรา การล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ ก็จะช่วยลดปริมาณเชื้อโรคที่ติดอยู่บนมือเราได้เยอะเลย นอกจากนี้การทำความสะอาดสิ่งของที่เราใช้เป็นประจำ เช่น ลูกบิดประตู โทรศัพท์หรือแก้วน้ำ ก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคตกค้างและแพร่ไปยังคนอื่นๆ ในบ้านหรือที่ทำงาน การใส่ใจเรื่องความสะอาดจึงเป็นเหมือนการสร้างเกราะป้องกันทั้งตัวเองและคนรอบข้าง ไม่ให้หวัดมันลุกลามไปมากกว่าเดิมนั่นเองนะคะ
7. ใช้ยาบรรเทาอาการ
การใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการต่างๆ ตอนที่เราเป็นหวัดก็เป็นตัวช่วยสำคัญค่ะ เพราะอาการหวัดบางอย่าง มักสร้างความไม่สบายตัวให้เรามาก ทำให้พักผ่อนได้ไม่เต็มที่ การใช้ยาจะช่วยให้อาการทุเลาลง ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นและพักผ่อนได้ดีขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของร่างกาย แต่สิ่งสำคัญคือเราควรจะใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร และอ่านฉลากยาให้ละเอียด ไม่ควรซื้อยามากินเองโดยไม่รู้ เพราะยาบางชนิดอาจจะไม่เหมาะกับอาการของเรา หรืออาจมีผลข้างเคียงได้ การใช้ยาอย่างถูกต้องจึงเป็นเหมือนการช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานจากหวัด และช่วยให้ร่างกายเราฟื้นตัวได้ดีขึ้นด้วยค่ะ
8. ไม่ใช่สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
การไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำ ช้อน ผ้าเช็ดหน้าหรือแม้แต่โทรศัพท์ เพราะสิ่งเหล่านี้อาจมีเชื้อหวัดของเราติดอยู่ และถ้าคนอื่นมาใช้ต่อ ก็มีโอกาสสูงมากที่จะรับเชื้อหวัดจากเราไปด้วย การแยกใช้ของส่วนตัวจึงเหมือนเป็นการป้องกันไม่ให้เราแพร่เชื้อไปสู่คนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน หรือคนอื่นๆ ในสังคม และเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อหวัดได้อีกทางหนึ่งด้วยนะคะ
9. ทานอาหารที่ให้คุณค่าทางอาหาร
การเลือกทานอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารจึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ตอนเป็นหวัดค่ะ อาหารมีส่วนช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และให้พลังงาน อาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย เช่น โจ๊กหรือซุป ก็ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารโดยไม่ต้องทำงานหนักเกินไป การทานอาหารที่มีประโยชน์จึงเหมือนเป็นการเติมเชื้อเพลิงที่ดีให้กับร่างกาย เพื่อให้มีแรงต่อสู้กับหวัดและฟื้นตัวได้เร็วขึ้นนั่นเองค่ะ
10. ใส่หน้ากากอนามัย
ถึงแม้ว่าบางทีมันจะรู้สึกอึดอัดบ้าง แต่หน้ากากอนามัยคือปราการด่านสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อหวัดของเราแพร่กระจายออกไปสู่คนอื่น เวลาที่เราไอ จาม หรือแม้แต่พูดคุย ก็จะมีละอองน้ำมูกน้ำลายออกมา ซึ่งในละอองเหล่านี้ก็มีเชื้อหวัดอยู่เต็มไปหมด การใส่หน้ากากก็จะช่วยกักเชื้อเอาไว้ ไม่ให้ฟุ้งกระจายไปในอากาศ ลดโอกาสที่คนรอบข้างจะสูดดมเข้าไปและติดหวัดจากเราไปด้วย ซึ่งเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างหนึ่ง และช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้ดีเลยค่ะ
11. สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
การสังเกตอาการตัวเองอย่างใกล้ชิดเป็นเรื่องสำคัญนะคะ เพราะอาการหวัดในแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน และบางทีอาการเล็กๆ น้อยๆ ที่เรามองข้ามไป อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงกว่าได้ การที่เราคอยสังเกตว่าอาการของเราดีขึ้น แย่ลง หรือมีอาการใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา จะช่วยให้เรารู้ว่าควรดูแลตัวเองอย่างไรต่อไป หรือเมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม การที่เราใส่ใจและรู้เท่าทันอาการของตัวเอง ก็เหมือนเป็นการดูแลสุขภาพตัวเองอย่างดีที่สุด และช่วยให้เราหายจากหวัดได้อย่างปลอดภัยและทันท่วงทีค่ะ
และทั้งหมดนั้นคือแนวทางที่เราสามารถนำไปดูแลตัวเองได้ที่บ้าน ในระหว่างที่เป็นไข้หวัดค่ะ ซึ่งแนวทางทั้งหมดนั้น ในทุกข้อผู้เขียนก็ได้นำมาดูแลตัวเองตอนเป็นหวัดด้วยเหมือนกันนะคะ ซึ่งหลายๆ ข้อก็ไม่ได้ยากเลยค่ะ โดยสิ่งเพิ่มเติมที่ผู้เขียนได้ทำอีก ได้แก่ การเปิดบ้านเพื่อระบายอากาศและรับแสงแดด การจัดเก็บขยะให้มิดชิด การทำความสะอาดบ้านมากขึ้นในช่วงในระหว่างที่เป็นหวัด หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับเด็กๆ ประมาณนี้ค่ะ ซึ่งแนวทางในบทความนี้คุณผู้อ่านก็สามารถนำไปใช้ได้นะคะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ
เครดิตภาพประกอบบทความ
- ภาพหน้าปก โดย Gustavo Fring จาก Pexels
- ภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1– ภาพที่ 2 โดย freepik จาก FREEPIK และภาพที่ 3-4 โดยผู้เขียน
- ออกแบบภาพหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva
เกี่ยวกับผู้เขียน
- จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น
- มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล
บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน
ไข้เกิดจากอะไรได้บ้าง ติดเชื้อมีอาการอย่างไร ที่หลายคนมองข้าม
นอนโรงพยาบาล เตรียมอะไรบ้าง ห้องพิเศษโรงพยาบาลชุมชน คืนละกี่บาท
10 อาหารกินได้ตอนเป็นไข้ มีคุณค่าทางอาหาร ส่งเสริมให้หายป่วย
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !