
8 วิธีกระตุ้นให้เด็ก มีการออกกำลังกายมากขึ้น ทำยังไงดี | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล
ในยุคนี้หากพูดถึงเรื่องการออกกำลังกายแล้วนั้น ไม่ใช่ว่าเป็นประเด็นที่ต้องพูดเยอะเฉพาะในผู้ใหญ่เท่านั้นค่ะ แต่วัยเด็กก็เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่มักปราบคนเป็นพ่อเป็นแม่หรือผู้ที่ต้องดูแลเลี้ยงดูเด็ก เพราะมีหลายอย่างเหลือเกินที่มาดึงดูดความสนใจของคนกลุ่มนี้ไป จนหลายคนก็พบว่าอ่อนใจไปแล้วกับการต้องกระตุ้นให้เด็กได้ออกกำลังกายมากขึ้น กำลังตกอยู่ในสถานการณ์นี้อยู่ไหมคะ?
แต่อย่าเพิ่งท้อแท้และหมดกำลังใจไปค่ะ เคยได้ยินไหมคะที่เขาบอกว่า เราเกิดมาเพื่อแก้ปัญหา โดยอาจเป็นการแก้ปัญหาให้กับคนอื่นและในทุกๆ วันเราก็ต้องแก้ปัญหาให้กับตัวเอง และทุกปัญหามีทางออกเสมอ พอเป็นเช่นนั้นเนื้อหาในบทความนี้ก็คือทางออกของปัญหาที่ว่ามาค่ะ กับวิธีการที่จะไปเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กติดหน้าจอและไม่อยากทำกิจกรรมที่ต้องขยับแข้งขยับขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องทำจนมีวินัยในการออกกำลังกาย ให้หันมาออกกำลังกาได้มากขึ้นจากเดิม โดยหลายแนวทางสามารถทำให้คุณผู้อ่านมองภาพออกมากขึ้น ซึ่งในบางแนวทางอ่านจบรู้เรื่องและสามารถคิดออกทันทีว่าต้องทำอะไรต่อค่ะ ดังนั้นต้องอ่านให้จบกับเนื้อหาที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ
1. สร้างบรรยากาศที่กระตุ้น
การสร้างบรรยากาศที่กระตุ้นให้เด็กอยากออกกำลังกายมากขึ้นเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ ลองคิดดูว่าถ้าในบ้านมีลูกบอลสีสันสดใสวางอยู่ หรือมีเชือกกระโดดที่ดูน่าเล่น แทนที่จะเก็บไว้ในตู้เฉย ๆ เด็กก็จะเห็นและอาจจะหยิบมาเล่นเองโดยธรรมชาติ เหมือนกับเวลาที่เราวางของเล่นที่เขาสนใจไว้ใกล้มือเขา
ดังนั้นการจัดมุมเล็กๆ ให้เป็นพื้นที่ออกกำลังกายง่าย ๆ อาจจะไม่ต้องมีอุปกรณ์ราคาแพง แค่มีพื้นที่โล่งๆ ปลอดภัย และมีอุปกรณ์ที่ชวนให้เคลื่อนไหว ก็ช่วยสร้างแรงจูงใจได้แล้วค่ะ ยิ่งถ้าเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศนั้น เช่น ชวนลูกมาเล่นด้วยกัน หรือเปิดเพลงสนุกๆ ให้เขาขยับร่างกายตาม ก็จะยิ่งทำให้การออกกำลังกายกลายเป็นเรื่องสนุก และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปโดยไม่รู้สึกเบื่อเลยค่ะ
2. ทำกิจกรรมที่สนุกด้วยกัน
เด็กในวัยเจริญเติบโตควรได้รับการส่งเสริมให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีพัฒนาการที่ดี และการออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องน่าเบื่อเสมอไป หากเราสามารถนำกิจกรรมที่สนุกสนานมาผสมผสานได้ เด็กๆ ก็จะรู้สึกเพลิดเพลินและอยากเข้าร่วมมากขึ้น
ลองคิดถึงกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น การเล่นวิ่งไล่จับ การกระโดดเชือก การเล่นเกมที่มีลูกบอล หรือแม้แต่การเต้นตามเพลง นอกจากนี้การทำกิจกรรมร่วมกันเป็นกลุ่มกับเพื่อนหรือครอบครัว จะช่วยเพิ่มความสนุกสนานและสร้างแรงจูงใจให้เด็กๆ ได้อย่างดี การสนับสนุนให้เด็กออกกำลังกายอย่างสนุกสนานตั้งแต่วัยเยาว์ จะเป็นการปลูกฝังนิสัยรักสุขภาพที่ดีไปตลอดชีวิตค่ะ
3. จำกัดเวลาอยู่หน้าจอ
ในยุคดิจิทัลที่เด็กๆ ใช้เวลาอยู่กับหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น การส่งเสริมให้พวกเขาหันมาออกกำลังกายจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ช่วยให้เราแข็งแรงขึ้น แต่ยังมีผลดีต่อพัฒนาการทางสมองและอารมณ์ของเด็กด้วยค่ะ ซึ่งการจำกัดเวลาอยู่หน้าจอเป็นอีกหนึ่งวิธี ที่จะช่วยให้เด็กมีเวลาเหลือไปทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ส่งเสริมสุขภาพมากขึ้น
โดยเราอาจเริ่มจากการกำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับเวลาการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในแต่ละวัน และส่งเสริมให้เด็กๆ หากิจกรรมที่น่าสนใจทำในช่วงเวลาที่ไม่ได้อยู่หน้าจอ เช่น การเล่นกีฬา การทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือการเข้าร่วมชมรมต่างๆ การสร้างสมดุลระหว่างโลกดิจิทัลและกิจกรรมทางกาย จะช่วยให้เด็กเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพกายและใจที่ดีนะคะ
4. ลองหากิจกรรมที่ลูกสนใจ
การกระตุ้นให้เด็กหันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งสำคัญต่อการเติบโตและพัฒนาการที่ดีค่ะ แต่การบังคับอาจทำให้เด็กต่อต้านและรู้สึกไม่สนุก โดยมีวิธีที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ การสังเกตและค้นหากิจกรรมที่ลูกให้ความสนใจเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาบางชนิด การเต้น การปั่นจักรยาน หรือแม้แต่การเล่นเกมที่ต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกาย
ซึ่งการสนับสนุนให้ลูกได้ทำในสิ่งที่เขาสนใจจะช่วยสร้างแรงจูงใจและความสุขในการออกกำลังกายได้อย่างแท้จริง เมื่อเด็กๆ ได้ทำกิจกรรมที่ชอบ พวกเขาจะรู้สึกสนุกและเพลิดเพลินจน และอาจลืมไปเลยว่ากำลังออกกำลังกายอยู่ การเปิดโอกาสให้ลูกได้ลองทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ จะช่วยให้ค้นพบสิ่งที่ใช่และสร้างนิสัยรักการออกกำลังกายไปในระยะยาวค่ะ
5. เป็นตัวอย่างที่ดี
เพราะคนเราเรียนรู้จากตัวอย่าง ซึ่งการจะกระตุ้นให้เด็กๆ หันมาใส่ใจกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมากขึ้นได้นั้น สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือการที่ผู้ใหญ่รอบข้าง โดยเฉพาะพ่อแม่หรือผู้ปกครองต้องเป็นแบบอย่างที่ดีก่อนค่ะ เพราะการแสดงให้เด็กเห็นว่า เราเองก็ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและมีการออกกำลังกายเป็นประจำ จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและปลูกฝังทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวร่างกาย
หากเด็กเห็นว่าการออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรา พวกเขาก็จะซึมซับและเห็นความสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีตามไปด้วย ดังนั้นการชวนลูกออกกำลังกายร่วมกัน หรือเล่าถึงความสนุกและความรู้สึกดีหลังการออกกำลังกาย ก็เป็นวิธีที่ช่วยกระตุ้นให้เด็กอยากลองและเห็นคุณค่าของการมีกิจกรรมทางกายมากขึ้น การเป็นตัวอย่างที่ดีจึงเป็นการกระตุ้นที่ทรงพลังและยั่งยืนที่สุดค่ะ
6. ผสานการออกกำลังกายเข้ากับการเล่น
หลายคนยังไม่รู้ว่า เด็กๆ เรียนรู้และเติบโตผ่านการเล่น ดังนั้นการเปลี่ยนกิจกรรมที่ดูน่าเบื่อให้กลายเป็นเกมที่ท้าทายหรือกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงาน เช่น การเล่นซ่อนหา การปีนป่ายในสนามเด็กเล่น การเล่นเตะบอล หรือแม้แต่การสร้างสรรค์ท่าเต้นตามจังหวะเพลง จะช่วยให้เด็กๆ ได้ออกกำลังกายโดยไม่รู้สึกว่ากำลังถูกบังคับ แต่พวกเขากลับรู้สึกสนุกและเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมนั้นๆ การผสานการออกกำลังกายเข้ากับการเล่น จึงเป็นวิธีที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพในการส่งเสริมให้เด็กๆ มีสุขภาพที่แข็งแรงและมีพัฒนาการที่สมวัยค่ะ
7. ทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องสนุก
การทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องสนุก คือ หัวใจสำคัญในการกระตุ้นให้เด็กๆ หันมาเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอค่ะ แทนที่จะมองว่าเป็นการทำตามหน้าที่หรือเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ ลองเปลี่ยนบรรยากาศให้เต็มไปด้วยความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ อาจเริ่มต้นจากการชวนเด็กๆ เล่นเกมที่ต้องมีการเคลื่อนไหว เช่น วิ่งไล่จับ กระโดดตบ หรือเล่นกีฬาที่พวกเขาชื่นชอบ
การเปิดเพลงที่มีจังหวะสนุกสนานแล้วชวนกันเต้น ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้การออกกำลังกายไม่จำเจ นอกจากนี้การตั้งเป้าหมายเล็กๆ น้อยๆ และให้รางวัลเมื่อทำสำเร็จ ก็เป็นแรงจูงใจที่ดี การทำให้การออกกำลังกายเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานและสร้างความสุข จะช่วยปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อการมีสุขภาพแข็งแรงไปตลอดชีวิตค่ะ
8. เปลี่ยนการเดินทางให้เป็นการออกกำลังกาย
อีกวิธีที่น่าสนใจในการกระตุ้นให้เด็กๆ ออกกำลังกายมากขึ้น คือ การปรับเปลี่ยนวิธีการเดินทางในชีวิตประจำวัน ให้กลายเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายแทนค่ะ หากระยะทางไม่ไกลจนเกินไป ให้ลองชวนลูกเดินหรือปั่นจักรยานไปโรงเรียน ไปซื้อของ หรือไปทำกิจกรรมต่างๆ แทนการนั่งรถ
การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นการออกกำลังกายที่ดีต่อร่างกายแล้ว แต่ยังเป็นการสร้างความคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน และอาจเป็นการค้นพบความสนุกในการเดินหรือปั่นจักรยานอีกด้วย นอกจากนี้การได้ทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างเดินทาง ยังเป็นโอกาสที่ดีในการพูดคุยและสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว การเปลี่ยนการเดินทางให้เป็นการออกกำลังกายจึงเป็นวิธีที่ง่ายและได้ประโยชน์หลายต่อเลยทีเดียวค่ะ
และนั่นคือแนวทางสำหรับยุคนี้ เพื่อทำให้เด็กหันมาออกกำลังกายมากขึ้นค่ะ จริงๆ ถ้าพูดเรื่องออกกำลังกายนั้น ผู้เขียนสามารถเป็นแบบอย่างให้กับเด็กๆ ได้และง่ายมากๆ ค่ะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วออกกำลังกายเป็นประจำและมีความหลากหลาย ดังนั้นพอจะให้กระตุ้นให้เด็กออกกำลังกายที่บ้านหรือกลางแจ้ง จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรสำหรับผู้เขียนเลยค่ะ โดยมักพาเด็กๆ ไปเดินที่สวนสาธารณะหรือที่ๆ บรรยากาศดี การผสมผสานการเล่น การทำกิจกรรมเล็กๆ น้อยในบ้านมาเป็นส่วนหนึ่งของการออกกำลังกายแบบนี้ก็ทำเรื่อยๆ ค่ะ
โดยพบว่าเด็กมักเล่นซ่อนแอบ ที่ในบางวันก็กระโดดโลดเต้น ซึ่งถ้าเป็นเด็กโตมาหน่อย ผู้เขียนจะทำกิจกรมนั้นไปด้วยกันกับเขา เช่น ถ้าเด็กอยากปั่นจักรยาน เราก็ต้องปั่นจักรยานค่ะ ถ้าเขาปั่นไปคนเดียว แล้วเราไปรอที่ปลายทางด้วยวิธีการอื่น แบบนี้ยากเลยนะคะ ยังไงนั้นลองอ่านทำความเข้าใจดีๆ และนำไปทำตามดูค่ะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ
เครดิตรูปภาพประกอบบทความ
- รูปภาพทำหน้าปกและหน้าปกโดยผู้เขียน ออกแบบหน้าปกใน Canva
- รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน
เกี่ยวกับผู้เขียน 
ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล
- จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น
- มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล
บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน
กิจกรรมยามว่าง กิจกรรมของเด็กในชนบท ภาคอีสาน มีอะไรบ้าง
ตัวอย่างกิจกรรมในครอบครัวทำร่วมกัน ในเทศกาล Easter ประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐแคลิฟอร์เนีย ซานโฮเซ
8 วิธีเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง ให้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !