Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the pubnews domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. โปรดดู การแก้ข้อผิดพลาดใน WordPress สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม (ข้อความนี้ถูกเพิ่มมาในรุ่น 6.7.0.) in /www/wwwroottha/38.181.62.209/wp-includes/functions.php on line 6121

Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the pubnews-plus domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. โปรดดู การแก้ข้อผิดพลาดใน WordPress สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม (ข้อความนี้ถูกเพิ่มมาในรุ่น 6.7.0.) in /www/wwwroottha/38.181.62.209/wp-includes/functions.php on line 6121
KUBET – 10 ผลกระทบจากมลพิษทางเสียง ต่อสุขภาพจิตของคนเรา มีอะไรบ้าง – KUBET

    KUBET – 10 ผลกระทบจากมลพิษทางเสียง ต่อสุขภาพจิตของคนเรา มีอะไรบ้าง

    10 ผลกระทบจากมลพิษทางเสียง ต่อสุขภาพจิตของคนเรา มีอะไรบ้าง

    10 ผลกระทบจากมลพิษทางเสียง ต่อสุขภาพจิตของคนเรา มีอะไรบ้าง อ่านเลย!

    เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล

    ดูเหมือนว่าในโลกทุกวันนี้เป็นโลกที่เต็มไปด้วยเสียง ที่ในบางครั้งเสียงที่ดังจนเกินไปก็กลายมาเป็นสิ่งที่คุกคามคนเราได้ และในประเด็นนี้หลายคนก็มองข้าม หรืออาจจะมองไม่ออกว่าการมีเสียงดังรบกวนส่งผลต่อตัวเราได้ยังไง จึงไม่ได้หลีกเลี่ยงหรือหาทางป้องกันตัวเองจากเสียงดังที่มากเกินไป ซึ่งคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า มลพิษทางเสียงสามารถบั่นทอนสุขภาพจิตของเราได้ในหลายรูปแบบมากๆ และเราจะมารู้กันว่ามีอะไรบ้างในบทความนี้ค่ะ

    โดยเมื่ออ่านจบแล้ว คุณผู้อ่านจะมองเห็นภาพใหญ่ของมลพิษทางเสียงทันที ที่ในบางครั้งในตอนนี้คุณผู้อ่านอาจจะกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาอยู่ก็ได้ ดังนั้นต้องอ่านต่อในรายละเอียดทั้งหมดค่ะ เพราะเราจะได้หันมาตระหนักเรื่องผลกระทบจากมลพิษทางเสียงมากขึ้นด้วย และถ้าอยากรู้แล้วว่าจะมีผลเสียอะไรบ้าง หากเราไปอยู่ในจุดที่เสียงดังจนเกินไป งั้นเรามาอ่านต่อกันเลยดีกว่าค่ะ กับเนื้อหาที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

    1. เกิดความเครียด 

    มลพิษทางเสียงเป็นปัญหาที่เราเผชิญอยู่ทุกวัน และสามารถส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพจิตของเราได้ เพราะเสียงที่ดังเกินไปหรือไม่พึงประสงค์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเสียงการจราจรที่หนาแน่น เสียงการก่อสร้าง เสียงเพลงจากเพื่อนบ้าน หรือเสียงจากโรงงานอุตสาหกรรม ล้วนแต่กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียด ซึ่งนำไปสู่อาการทางกายภาพหลายอย่าง และอาการทางจิตใจ เช่น วิตกกังวล หงุดหงิดง่าย และนอนไม่หลับ

    หากเราต้องเจอสถานการณ์เหล่านี้เป็นประจำโดยไม่มีโอกาสได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ความเครียดสะสมก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนอาจพัฒนาไปสู่ปัญหาด้านร่างกายที่รุนแรงกว่าได้ การที่เราไม่สามารถควบคุมหรือหลีกหนีจากเสียงเหล่านี้ได้ ทำให้ยิ่งเพิ่มระดับความเครียดให้สูงขึ้นไปอีกค่ะ

    2. ความบกพร่องทางสติปัญญา 

    หลายคนยังไม่รู้ว่า เสียงดังต่อเนื่องสามารถรบกวนความสามารถในการจดจ่อและการประมวลผลข้อมูล ทำให้สมาธิสั้นลง ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ลดลง ทั้งในด้านการอ่าน การเขียน การทำความเข้าใจเนื้อหา และแม้กระทั่งทักษะการแก้ปัญหา นอกจากนี้เสียงดังยังกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความเครียดและอารมณ์ ทำให้สมองส่วนที่รับผิดชอบการคิดวิเคราะห์และการจดจำทำงานได้ไม่เต็มที่

    ตัวอย่างเช่น ในห้องเรียนที่ติดกับถนนใหญ่ ในสำนักงานที่เสียงดัง หรือแม้แต่ในบ้านพักอาศัยที่อยู่ใกล้แหล่งก่อสร้างหรือสนามบิน การสัมผัสกับเสียงรบกวนเหล่านี้เป็นเวลานานโดยไม่มีช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบ ทำให้สมองทำงานหนักเกินไปและนำไปสู่ความบกพร่องทางสติปัญญาในระยะยาวได้ค่ะ

    3. อาการหงุดหงิดและรำคาญใจ

    คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า มลพิษทางเสียงเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดอาการหงุดหงิดและรำคาญใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเสียงที่ดังเกินไปหรือไม่พึงประสงค์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเสียงแตรที่ดังลั่น เสียงเครื่องยนต์ เสียงพูดคุยที่ดังเจี๊ยวจ๊าว หรือเสียงเพลงที่เปิดรบกวน ล้วนแต่แทรกซึมเข้าสู่การรับรู้ของเราได้ทั้งนั้น ทำให้เกิดการขัดจังหวะการทำกิจกรรมหรือการพักผ่อน ซึ่งเสียงเหล่านี้บังคับให้สมองต้องประมวลผลข้อมูลที่ไม่ต้องการ สร้างความรู้สึกไม่สบายใจ และกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ ซึ่งนำไปสู่การหลั่งฮอร์โมนความเครียด ทำให้ร่างกายและจิตใจอยู่ในภาวะตื่นตัวตลอดเวลา

    หากเราต้องเผชิญกับเสียงรบกวนเหล่านี้เป็นเวลานานโดยไม่สามารถควบคุมได้ ความรู้สึกไม่พอใจจะสะสมและแปรเปลี่ยนเป็นความหงุดหงิดรำคาญที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนอาจถึงขั้นระเบิดอารมณ์ได้ มลพิษทางเสียงที่ทำให้เกิดอาการหงุดหงิดรำคาญมักพบมาก ในสถานการณ์ที่ผู้คนรวมตัวกันหนาแน่น เช่น การจราจรติดขัดในเมืองใหญ่ ย่านการค้าที่พลุกพล่าน หรือแม้แต่ในที่พักอาศัยที่มีเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้านหรือกิจกรรมต่างๆ โดยรอบ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิตของเราในแต่ละวันได้ค่ะ

    ผู้ชายนอนไม่หลับ

    4. ประสบปัญหาการนอนหลับ

    รู้ไหมคะว่า มลพิษทางเสียงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เราประสบปัญหาการนอนหลับอย่างมาก เพราะเสียงดังหรือเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เราต้องการพักผ่อน เช่น เสียงการจราจร เสียงเพื่อนบ้าน เสียงเพลง หรือเสียงจากกิจกรรมต่างๆ ยามค่ำคืน จะรบกวนวงจรการนอนหลับตามธรรมชาติของเรา แม้กระทั่งเสียงที่ไม่ได้ดังมากแต่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถทำให้สมองตื่นตัวและหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมาได้ ซึ่งส่งผลให้หลับได้ยากขึ้น หลับไม่สนิท ตื่นกลางดึกบ่อยครั้ง หรือคุณภาพการนอนโดยรวมลดลง

    การที่ร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอส่งผลกระทบต่อตัวเราในระยะยาว ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ขาดสมาธิ และหงุดหงิดง่ายในวันถัดไป สถานการณ์ที่มักพบปัญหานี้ได้แก่ ผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้ถนนใหญ่ ย่านบันเทิง สถานีรถไฟฟ้า สนามบิน หรือแม้แต่ในอพาร์ตเมนต์ที่มีผนังบาง ซึ่งเสียงจากภายนอกสามารถเล็ดลอดเข้ามาภายในห้องนอนได้ง่าย ทำให้การนอนหลับที่ควรจะเป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูกลับกลายเป็นความทรมานแทนค่ะ

    5. มีความวิตกกังวล

    มลพิษทางเสียงเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่ภาวะวิตกกังวลได้ เนื่องจากเสียงดังหรือเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและควบคุมไม่ได้ เช่น เสียงการจราจรที่หนาแน่น เสียงจากเครื่องจักร เสียงก่อสร้าง หรือเสียงดังจากเพื่อนบ้าน ล้วนกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้ร่างกายเข้าสู่โหมด “ต่อสู้หรือหนี” (fight or flight) ซึ่งเป็นกลไกการตอบสนองต่อภัยคุกคาม โดยผลที่ตามมาคือการหลั่งฮอร์โมนความเครียด

    ซึ่งการเผชิญกับมลพิษทางเสียงเป็นเวลานานโดยไม่มีโอกาสได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะตื่นตัวตลอดเวลา ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเรื้อรัง นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย และอาจพัฒนาไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ในที่สุด สถานการณ์ที่มักพบปัญหานี้ได้แก่ ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองใหญ่ที่มีเสียงรบกวนตลอดเวลา พนักงานที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม หรือ ผู้ที่พักอาศัยใกล้แหล่งก่อสร้าง ซึ่งสภาพแวดล้อมเหล่านี้ทำให้ร่างกายและจิตใจต้องรับมือกับความเครียดอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่ความวิตกกังวลที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตประจำวันค่ะ

    ผู้ชายกำลังวิตกกังวล

    6. มีปัญหาในการสื่อสารและการเข้าสังคม

    เสียงดังและเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น เสียงการจราจร เสียงเพลงที่ดังเกินไป หรือเสียงจากกิจกรรมต่างๆ ทำให้การสนทนาเป็นเรื่องยากลำบาก เราต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการฟังและทำความเข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูด ส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้าทางจิตใจ และอาจนำไปสู่การเข้าใจผิดหรือพลาดข้อมูลสำคัญ

    นอกจากนี้สภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังยังทำให้เราหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม เพราะต้องตะเบ็งเสียงหรือรู้สึกไม่สบายใจที่จะต้องพยายามสื่อสารในสถานการณ์ดังกล่าว ความยากลำบากในการสื่อสารนี้ลดโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือแม้แต่การมีส่วนร่วมในสังคม ทำให้เกิดความโดดเดี่ยวและรู้สึกแปลกแยก

    สถานการณ์ที่มักพบปัญหานี้ได้แก่ ในร้านอาหารหรือคาเฟ่ที่มีเสียงดัง งานเลี้ยงที่มีดนตรีเสียงดังเกินไป การประชุมในห้องที่ไม่เก็บเสียง หรือแม้แต่ในบ้านที่มีเสียงรบกวนจากภายนอก ซึ่งล้วนแต่ขัดขวางการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ทำให้คุณภาพของการสื่อสารและการเข้าสังคมลดลงอย่างมีนัยสำคัญค่ะ

    7. มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์

    หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า มลพิษทางเสียงเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ในทางลบได้อย่างชัดเจน เพราะเสียงดังหรือเสียงรบกวนที่ไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเสียงการจราจรที่หนาแน่น เสียงก่อสร้างที่ดังสนั่น หรือเสียงจากเครื่องจักรในโรงงาน ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบประสาทของเรา โดยเสียงเหล่านี้กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เกิดภาวะตึงเครียดสะสม และเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะเครียดเป็นเวลานาน ก็จะส่งผลให้อารมณ์แปรปรวนได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความหงุดหงิด โกรธง่าย วิตกกังวล หรือแม้แต่ความรู้สึกซึมเศร้า

    การที่ต้องเผชิญกับเสียงรบกวนที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้เรารู้สึกถูกคุกคาม สูญเสียการควบคุม และไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งบั่นทอนสุขภาพจิตและอารมณ์อย่างรุนแรง สถานการณ์ที่มักพบปัญหานี้ได้แก่ ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองใหญ่ ที่มีเสียงดังตลอด 24 ชั่วโมง พนักงานที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง หรือ ผู้ที่พักอาศัยใกล้แหล่งชุมชนที่มีกิจกรรมเสียงดัง การสัมผัสกับมลพิษทางเสียงเหล่านี้อย่างต่อเนื่องทำให้คุณภาพชีวิตลดลง และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตที่ร้ายแรงในระยะยาวได้นะคะ

    คนอารมณ์เสีย

    8. ภาวะซึมเศร้า

    รู้ไหมคะว่า มลพิษทางเสียงเป็นภัยเงียบที่สามารถนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้โดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะการสัมผัสกับเสียงดังหรือเสียงรบกวน ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงการจราจรที่คึกคักตลอดเวลา เสียงก่อสร้างที่ดังสนั่น หรือเสียงจากเพื่อนบ้านที่รบกวนยามวิกาล ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะเครียดเรื้อรัง จากที่เสียงเหล่านี้กระตุ้นให้ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานหนักขึ้น จึงส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไปรบกวนการทำงานของสารสื่อประสาทในสมองที่ควบคุมอารมณ์ จึงทำให้เกิดความรู้สึกหงุดหงิด วิตกกังวล นอนไม่หลับ

    และเมื่อร่างกายและจิตใจถูกบั่นทอนเช่นนี้เป็นเวลานานโดยไม่มีโอกาสได้พักผ่อนหรือหลีกหนีจากเสียงรบกวน ความเครียดสะสมก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนนำไปสู่ภาวะสิ้นหวัง หมดแรงบันดาลใจ และในที่สุดก็อาจพัฒนาเป็นภาวะซึมเศร้าได้ โดยสถานการณ์ที่มักพบปัญหานี้ได้แก่ ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองที่มีเสียงรบกวนสูงตลอดเวลา ผู้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังเป็นประจำ หรือผู้ที่ต้องเผชิญกับเสียงรบกวนที่ไม่สามารถควบคุมได้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิตในระยะยาว

    9. สมาธิลดลง

    อีกหนึ่งผลเสียที่สำคัญ คือ การที่มลพิษทางเสียงเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้สมาธิของเราลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะเสียงดังหรือเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเสียงแตร เสียงเครื่องยนต์ เสียงพูดคุย หรือเสียงจากเครื่องจักร ล้วนแต่แทรกซึมเข้ามารบกวนกระบวนการคิดและการจดจ่อของสมอง สมองของเราถูกออกแบบมาให้ประมวลผลข้อมูลที่สำคัญที่เวลาหนึ่ง แต่เมื่อมีเสียงรบกวนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สมองจะถูกบังคับให้ต้องแบ่งแยกความสนใจไปจัดการกับเสียงเหล่านั้น แทนที่จะจดจ่ออยู่กับภารกิจหลักที่กำลังทำอยู่

    การที่สมองต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อกรองเสียงที่ไม่ต้องการออกไป ทำให้เกิดความเหนื่อยล้าทางจิตใจ ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง และความสามารถในการจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานานก็ลดลงตามไปด้วย หากเราต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังเป็นประจำ ความสามารถในการรักษาสมาธิจะยิ่งแย่ลงไปอีก สถานการณ์ที่มักพบปัญหานี้ได้แก่ ในห้องเรียนที่อยู่ใกล้ถนนใหญ่ ในสำนักงานแบบเปิดที่มีเสียงพูดคุยดัง ในห้องสมุดที่มีเสียงรบกวน หรือแม้แต่ในบ้านพักอาศัยที่อยู่ใกล้แหล่งก่อสร้าง ซึ่งล้วนแต่เป็นสภาพแวดล้อมที่บั่นทอนสมาธิและประสิทธิภาพในการเรียนรู้หรือทำงานของเราได้ค่ะ

    ผู้ชายไม่มีสมาธิในการทำงาน

    10. อาการทางจิตอื่นๆ

    รู้ไหมคะว่า มลพิษทางเสียงไม่ได้จำกัดผลกระทบอยู่แค่ความเครียดหรือภาวะซึมเศร้าเท่านั้น แต่ยังสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการทางจิตอื่นๆ ได้หลากหลาย เพราะเสียงดังหรือเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและควบคุมไม่ได้ เช่น เสียงการจราจรที่โหวกเหวก เสียงเครื่องบินขึ้นลง หรือเสียงจากโรงงานอุตสาหกรรม ล้วนเป็นปัจจัยคุกคามที่ทำให้ร่างกายและจิตใจอยู่ในภาวะตึงเครียดเรื้อรัง ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง และส่งผลกระทบต่อระบบประสาทโดยตรง การสัมผัสกับเสียงรบกวนอย่างต่อเนื่องโดยปราศจากการพักผ่อนที่เพียงพอ อาจทำให้เกิดอาการหูแว่ว หรือความรู้สึกว่าได้ยินเสียงบางอย่างที่ไม่เป็นจริง

    ในบางรายที่มีความเปราะบางทางจิตใจอยู่แล้ว เสียงรบกวนอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการของความเจ็บป่วยทางจิตเวชที่มีอยู่ก่อนกำเริบหนักขึ้นได้ นอกจากนี้ความรู้สึกที่ถูกคุกคามจากเสียงที่หลีกหนีไม่ได้ อาจทำให้เกิดภาวะหวาดระแวง หรือความกังวลเกินเหตุในสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง สถานการณ์ที่มักพบปัญหานี้ได้แก่ ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองที่มีระดับเสียงรบกวนสูงมากตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญกับเสียงดังเป็นประจำโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันที่เพียงพอ หรือผู้ที่พักอาศัยใกล้แหล่งกำเนิดเสียงขนาดใหญ่ที่สร้างผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างรุนแรง

    และนั่นคือผลที่จะตามมาหากเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีเสียงดังค่ะ โดยหลายอย่างผู้เขียนเคยประสบมาแล้ว เช่น ตอนไปเที่ยวกาญจนบุรีด้วยรถไฟกับหลานชาย ในบางช่วงคุยกันไม่ได้ยินและไม่รู้เรื่องเลยค่ะ เพราะเสียงดังพอสมควร และที่นี่บางทีก็ไม่มีสมาธิเลย เพราะเด็กวัยรุ่นข้างบ้านเปิดเพลงเสียงดังในบางช่วง ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณผู้อ่านกำลังประสบกับมลพิษทางเสียงหรือเปล่า ยังไงนั้นต้องหาทางป้องกันค่ะ เพราะผลกระทบมีหลายอย่างมากๆ โดยผลเสียก็คุกคามตัวเราโดยตรง จึงควรให้ความสำคัญในเรื่องของการลดการเกิดเสียงและการป้องกันเสียงดังค่ะ

    อย่างไรก็ตามการมีเสียงดังรบกวนถือเป็นเหตุรำคาญ ที่ส่งผลต่อคนเราได้ในด้านสาธารณสุข ซึ่งเราสามารถร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ เพื่อเข้ามาควบคุมแหล่งกำเนิดเสียงที่สามารถส่งผลต่อสุขภาพจิตของเราค่ะ ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ

    ขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบบทความ


    เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล

    ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล

    • จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น
    • มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 

    บทความอื่นที่น่าสนใจผู้หญิงมีสุขภาพดี

    14 วิธีมีสุขอนามัยพื้นฐานส่วนบุคคลดี เริ่มง่ายๆ จากที่บ้าน

    ผู้หญิงนอนไม่หลับ

    8 ผลเสียต่อสุขภาพจิต จากการนอนไม่หลับ มีอะไรบ้าง ที่ควรรู้

    สิ่งแวดล้อมภายในบ้าน

    10 ปัญหาสิ่งแวดล้อมภายในบ้าน ส่งผลกระทบต่อคนได้ มีอะไรบ้าง

     

    เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

    ใส่ความเห็น

    อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

    Back To Top